ถั่วเขียว | Mung bean

ถั่วเขียว (Green Bean หรือ Mung Bean) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Phaseolus aureus L. เป็นพืชในตระกูลถั่ว เช่นเดียวกับถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วแขก และถั่วพู มีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบอินเดีย พม่า อินโดนีเซีย และไทย มีลักษณะเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก อายุประมาณ 1 ปี ลำต้นตั้งตรง สูงประมาณ 40 เซนติเมตร มีขนตามลำต้น กิ่ง ก้าน และใบ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มี 3 ใบย่อย ลักษณะใบเป็นใบตั้ง รูปใข่ บ้างก็คล้ายรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ช่อดอกเป็นแบบช่อกระจะ ลักษณะดอกเหมือนดอกถั่วทั่วไป เป็นสีเหลือง ส่วนเมล็ดมีสีเขียวรูปกึ่งกลม โดยส่วนใหญ่แล้วถั่วเขียวมักถูกนิยมนำมาทำเป็นแป้ง วุ้นเส้น หรือนำไปนึ่งให้สุกแล้วกวนเป็นขนม นอกจากนี้ก็ยังนิยมนำไปเพาะเป็นต้นอ่อน หรือที่เรียกว่าถั่วงอก เพื่อนำมาปรุงเป็นอาหารอีกด้วย โดยถั่วงอกจะมีปริมาณวิตามินซีที่มากกว่าถั่วเขียวที่เป็นเมล็ด

สรรพคุณของถั่วเขียว

  1. มีโพแทสเซียมช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อในร่างกายให้แข็งแรง
  2. ถั่วเขียวมีสารต้านเอนไซม์โปรตีเอสในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านมะเร็ง
  3. ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันและรักษาไข้หวัด
  4. ถั่วเขียวอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยในการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ช่วยผลิตโปรตีน และการหดตัวของกล้ามเนื้อ
  5. ช่วยลดความดันโลหิต
  6. ช่วยทำให้เจริญอาหาร
  7. ช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอล ช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ควบคุมน้ำหนักได้ เพราะถั่วเขียวมีส่วนประกอบของไขมันที่ต่ำมาก ไม่มีคอเลสเตอรอล และยังอุดมไปด้วยโปรตีนกับเส้นใยอาหาร
  8. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
  9. ถั่วเขียวมีฤทธิ์เย็น ออกฤทธิ์ตามเส้นลมปราณของหัวใจและม้าม
  10. ถั่วเขียวอุดมไปด้วยธาตุเหล็กซึ่งจำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดงในร่างกาย
  11. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเบาหวานได้
  12. ถั่วเขียวอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และยังช่วยป้องกันและรักษาโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย
  13. ช่วยขับร้อน แก้อาการร้อนใน และช่วยแก้พิษในฤดูร้อน
  14. ถั่วเขียวมีประโยชน์ต่อลำคอและผิวหนัง และยังช่วยแก้อาการกระหายน้ำได้อีกด้วย
  15. เมล็ดถั่วเขียวนำมาต้มกับเกลือ ใช้อมเพื่อรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
  16. ช่วยถอนพิษในร่างกาย
  17. ช่วยกระตุ้นประสาท ถั่วเขียวเป็นแหล่งสำคัญของธาตุโบรอน (Boron) ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการส่งกระแสประสาทของสมอง ช่วยทำให้สมองทำงานได้ฉับไวมากขึ้น และยังอุดมไปด้วยฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงเซลล์ประสาทและสมอง
  18. ช่วยบำรุงสายตา ทำให้ตาสว่าง และรักษาตาอักเสบ (เปลือกสีเขียว) ช่วยแก้อาการตาพร่า ตาอักเสบ ด้วยการรับประทานถั่วเขียวต้มครั้งละ 15-20 กรัมเป็นประจำ
  19. ช่วยรักษาคางทูมที่เป็นใหม่ ๆ ด้วยการต้มถั่วเขียว 70 กรัมจนใกล้สุก แล้วใส่แกนกะหล่ำปลีลงไป ต้มอีก 15 นาที กินเฉพาะน้ำวันละ 2 ครั้ง
  20. ช่วยแก้อาการอาเจียนจากการดื่มเหล้า ด้วยการดื่มน้ำถั่วเขียวพอประมาณ
  21. ช่วยขับของเหลวในร่างกาย
  22. ในถั่วเขียวอุดมไปด้วยเส้นใยที่สามารถละลายน้ำได้ดี จึงช่วยในขบวนการทำความสะอาดของร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ
  23. ถั่วเขียวอุดมไปด้วยวิตามินบี 2 ที่ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอกได้
  24. ถั่วเขียวมีเส้นใยอาหารสูงจึงช่วยในการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และยังส่งผลดีต่อระบบลำไส้โดยรวมอีกด้วย
  25. เมล็ดถั่วเขียวนำมาต้มแล้วกิน ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
  26. ช่วยแก้ลำไส้อักเสบ
  27. ช่วยบำรุงตับ
  28. ช่วยแก้อาการไตอักเสบ
  29. ช่วยแก้ผดผื่นคัน
  30. ช่วยลดบวม
  31. ช่วยรักษาโรคข้อต่าง ๆ แก้อาการขัดข้อ
  32. ช่วยรักษาฝี ด้วยการใช้ถั่วเขียวดิบหรือต้มสุกนำมาใช้ตำแล้วพอกเป็นยารักษาภายนอก ช่วยในการบ่มหนองให้ฝีสุก และยังใช้รักษาอาการอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น แก้ท้องร่วง การคลอดบุตรยาก และโรคท้องมาน
  33. นำมาใช้ตำพอกแผล
  34. ช่วยแก้พิษจากพืช พิษจากสารหนู และพิษอื่น ๆ
  35. ถั่วเขียวอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 ที่ช่วยในการป้องกันโรคเหน็บชาได้เป็นอย่างดี
  36. ถั่วเขียวอุดมไปด้วยโฟเลตสูง ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพราะช่วยป้องกันการพิการแต่กำเนิดของทารกได้

ประโยชน์ของถั่วเขียว

  1. ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันโรคหัวใจ
  2. จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Journal of Human and Experimental Toxicology เมื่อปี 2011 พบว่า การรับประทานถั่วเขียวสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL Cholerterol) และช่วยยับยั้งภาวะออกซิเดชั่นของไขมันที่จะไปทำลายหลอดเลือดได้ และเมื่อระดับคอเลสเตอรอล LDL ลดลง ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจก็ลดลงด้วย เนื่องจากคอเลสเตอรอลชนิด LDL หากเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเข้าไปเกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดีพอ ทำให้หัวใจต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสูบฉีดเลือด และก่อให้เกิดโรคหัวใจในที่สุด

  3. ป้องกันท้องผูก
  4. ถั่วเขียวเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายได้ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย เช่น ท้องผูก หรือท้องอืด อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดภาวะลำไส้แปรปรวนได้อีกด้วย โดยในประเทศอินเดียได้นำถั่วเขียวมาปรุงกับขมิ้น ผักชี ยี่หร่า และขิง เพื่อเป็นยารักษาอาการปวดท้องเนื่องจากท้องผูกด้วย

  5. ป้องกันภาวะการติดเชื้อ
  6. ด้วยปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในถั่วเขียวที่มีมากไม่แพ้ซูเปอร์ฟู้ดชนิดอื่น จึงทำให้ถั่วเขียวมีฤทธิ์ในการป้องกันการติดเชื้อ และการอักเสบภายในร่างกายได้ ส่งผลให้ความเสี่ยงอาการเจ็บป่วย และโรคภัยต่าง ๆ ลดลง

  7. เป็นอาหารล้างพิษ
  8. อีกหนึ่งคุณประโยชน์ที่มาจากไฟเบอร์ในถั่วเขียวก็คือการล้างพิษให้ลำไส้ เพราะเมื่อเรารับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์เข้าไปมาก ๆ ไฟเบอร์เหล่านั้นจะไปช่วยจัดสารพิษต่าง ๆ ในร่างกาย และทำให้ร่างกายขับถ่ายสารพิษออกมา เมื่อลำไส้สะอาดขึ้นก็จะทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีมากขึ้น สุขภาพก็แข็งแรงขึ้น

  9. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  10. สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ที่ต้องพิถีพิถันกับการเลือกอาหารมากกว่าคนทั่วไป ถั่วเขียวถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะค่ะ เพราะถั่วเขียวเป็นอาหารที่มีระดับน้ำตาลที่ต่ำ เมื่อรับประทานแล้วปริมาณน้ำตาลในถั่วเขียวก็จะไม่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งดีต่อการควบคุมระดับน้ำตาลของผู้ป่วย นอกจากนี้ถั่วเขียวยังช่วยป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ โดยมีการศึกษาที่ทำการทดลองกับหนูพบว่า เมื่อให้หนูกินสารสกัดจากถั่วเขียวเข้าไป ระดับน้ำตาลในเลือดของหนูลดลง อีกทั้งระดับการตอบสนองของอินซูลินต่อน้ำตาลในเลือดก็ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงเมนูถั่วเขียวที่มีน้ำตาลสูง เช่น ถั่วเขียวต้มน้ำตาล หรือขนมหวานที่ทำจากถั่วเขียวจะดีที่สุด

  11. อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
  12. อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุสำคัญของโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ รวมทั้งริ้วรอยและการเสื่อมสภาพของร่างกายก่อนวัย โดยวิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งถั่วเขียวก็เป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากมายไม่แพ้ซูเปอร์ฟู้ดชนิดอื่น ๆ รู้แบบนี้แล้ว อยากสุขภาพดี ไม่ดูแก่ก่อนวัย ก็ต้องรับประทานถั่วเขียว

  13. บำรุงครรภ์ให้แข็งแรง
  14. โฟเลต เป็นสารอาหารสำคัญที่พบได้ในถั่วเขียว ซึ่งมีความจำเป็นต่อการสังเคราะห์ DNA และการเจริญเติบโตของเซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยควบคุมการทำงานของสมอง สมดุลของฮอร์โมน และระบบสืบพันธุ์ โดยเฉพาะคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ การรับประทานโฟเลตอย่างเพียงพอจะช่วยป้องกันภาวะพิการในทารก และการคลอดก่อนกำหนด รวมทั้งป้องกันการแท้งบุตรได้อีกด้วย

  15. ป้องกันภาวะโลหิตจาง
  16. ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญกับระบบโลหิต หากร่างกายได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอก็จะส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มักจะเกิดภาวะขาดธาตุเหล็กในช่วงมีประจำเดือน และช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งถั่วเขียวก็เป็นอาหารที่มีธาตุเหล็กอยู่ไม่น้อย เหมาะสำหรับรับประทานเพื่อเพิ่มธาตุเหล็กให้กับร่างกาย โดยไม่ต้องพึ่งพาอาหารเสริมที่มีราคาแพง

  17. ป้องกันโรคมะเร็ง
  18. จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเกษตรกรรมแห่งชาติจีนพบว่า ถั่วเขียวมีระดับโพลีฟีนอล และโอลิโกแซ็กคาไรด์ (oligosaccharide) สูง ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และป้องกันไม่ให้เกิดเนื้อร้าย ขณะที่สารต้านอนุมูลอิสระในถั่วเขียวก็ยังช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายและกลายเป็นเซลล์มะเร็งอีกด้วย

  19. บำรุงผิวพรรณ และเส้นผม
  20. สาว ๆ คนไหนที่อยากจะมีผิวพรรณเปล่งปลั่งและสุขภาพผมดี ถั่วเขียวช่วยคุณได้ค่ะ เพราะถั่วเขียวอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินมากมาย ซึ่งช่วยบำรุงสุขภาพผิวให้ดูเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังช่วยให้หนังศีรษะแข็งแรง ผมไม่หลุดร่วงง่ายอีกด้วย

  21. ย่อยง่าย
  22. สำหรับผู้ป่วยที่เพิ่งฟื้นตัวจากอาการปวดท้อง หรือท้องเสีย ถั่วเขียวถือเป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ป่วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะย่อยง่าย และอุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วก็จะทำให้รู้สึกอิ่มแบบไม่หนักท้องจนเกินไป

  23. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  24. สารไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient) ที่อุดมอยู่ในถั่วเขียวมีคุณสมบัติในการต่อต้านการอักเสบ และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดได้ จึงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้การรับประทานถั่วเขียวยังช่วยกระตุ้นการดูดซึมสารอาหารที่มีส่วนในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย

  25. ลดอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)
  26. สาว ๆ ที่มีอาการก่อนมีประจำเดือนเป็นประจำทุกเดือนต้องรักถั่วเขียวมากขึ้นแน่นอน เพราะถั่วเขียวมีวิตามินบี 6 วิตามินบี และโฟเลต ที่ช่วยควบคุมไม่ให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวน อันเป็นสาเหตุของอาการก่อนมีประจำเดือน นอกจากนี้ก็ยังช่วยบรรเทาอาการที่เกิดในช่วงมีประจำเดือน อย่างอาการปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ปวดหัว ปวดตามกล้ามเนื้อ และอาการอ่อนเพลียได้อีกด้วย

  27. ช่วยลดน้ำหนัก
  28. ถั่วเขียวถือเป็นอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักได้ดีไม่แพ้ธัญพืชชนิดอื่น ๆ เพราะถั่วเขียวมีไฟเบอร์และโปรตีนสูง ช่วยให้อิ่มท้อง และอิ่มนานขึ้น จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องปริมาณน้ำตาลในเมนูถั่วเขียวด้วย

  29. บำรุงกระดูก
  30. อย่าเพิ่งคิดว่าจะมีแค่ถั่วเหลืองเท่านั้นที่มีแคลเซียมสูง เพราะถั่วเขียวเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและวิตามินเคเช่นกัน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ดังนั้นการรับประทานถั่วเขียวก็เหมือนกับการบำรุงกระดูกให้แข็งแรงไปในตัว ถ้าใครไม่ชอบดื่มนมถั่วเหลือง หรือรับประทานเต้าหู้ ลองหันมากินถั่วเขียวก็ได้ นอกจากประโยชน์ข้างต้น ในฐานะพืชสมุนไพร ถั่วเขียวยังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมาย ไม่ว่าจะช่วยบำรุงร่างกาย แก้ร้อนใน ช่วยขับปัสสาวะ แก้เหน็บชา หากนำไปต้มกับเกลือแล้วนำมาอมก็สามารถรักษาอาการเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

ที่มา:  health.kapook.com, medthai